วีซ่าถูกปฏิเสธ
แน่นอนว่าหลังจากยื่นวีซ่าไปแล้วทุกคนก็ต่างเฝ้ารอ หวังให้การยื่นวีซ่าผ่านโดยไม่ติดขัดอะไร แต่หลายๆ คนกลับต้องผิดหวังเมื่อวีซ่าไม่ผ่าน
การยื่นใบรับรองสถานภาพการพำนัก(COE) ไม่ผ่าน
เมื่อดำเนินการยื่นขอ COE แล้วนั้น หากถูกปฏิเสธเอกสารที่ได้รับระบุผลเพียงว่าไม่ผ่าน เมื่ออ่านดูเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าเพราะสาเหตุใดจึงถูกปฏิเสธ หลายๆ คนคาดเดาเอาเองว่าอาจจะเป็นสาเหตุนี้สาเหตุนั้น แล้วก็ทำเอกสารยื่นเรื่องใหม่ไปอีกรอบ ซึ่งการยื่นซ้ำโดยที่ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงนั้น ส่วนใหญ่ผลก็จะออกมาเหมือนเดิมคือ ไม่ผ่าน ซึ่งจริงๆ แล้ว สิ่งที่ควรทำเมื่อได้รับใบแจ้งว่าไม่ผ่านคือ ไปพบเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ถูกปฏิเสธ และเนื่องจากโอกาสที่สามารถเข้าพบเจ้าหน้าที่ทำได้เพียงครั้งเดียว จึงต้องทำความเข้าใจและวิเคราะห์ถึงคำพูด เหตุผลต่างๆ ที่ถูกปฏิเสธ เพื่อที่ในการยื่นซ้ำจะได้ทำการขจัดช่องโหว่ของปัญหาเหล่านั้น
หากไม่สามารถพูดคุยและทำความเข้าใจสิ่งที่เจ้าหน้าที่อธิบายได้อย่างกระจ่างแจ้ง การยื่นซ้ำก็อาจจะถูกปฏิเสธเหมือนเดิม โดยเสียเวลาไปแบบเปล่าประโยชน์ มิหนำซ้ำหากยื่นหลายครั้งและโดนปฏิเสธหลายครั้ง เปอร์เซ็นต์การผ่านนั้นก็ยิ่งมีความเป็นไปได้น้อยลงเรื่อยๆ ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการยื่นวีซ่าซ้ำ
การยื่นต่อวีซ่า/เปลี่ยนวีซ่าไม่ผ่าน
เมื่อยื่นเอกสารต่อ/เปลี่ยนวีซ่าไปแล้วนิวกังจะส่งผลการพิจารณาวีซ่ามาเป็นไปรษณียบัตร ซึ่งกรณีที่วีซ่าไม่ผ่านโดยทั่วไปแล้วจะระบุวันเวลาให้ไปพบและระบุจำนวนเงินที่ต้องนำไปด้วย เมื่อไปถึงแล้วเจ้าหน้าที่จะแจ้งสาเหตุที่วีซ่าไม่ผ่าน ไซริวการ์ดจะโดนเจาะรูแล้วต้องลงลายมือชื่อรับทราบเปลี่ยนเป็นวีซ่าสำหรับเตรียมตัวกลับประเทศ (出国準備)ซึ่งจะอยู่ได้ถึงเมื่อไร กำหนดวันนั้นจะถูกแปะลงในหน้าหนังสือเดินทาง หากไม่ต้องการกลับไทยต้องทำการยื่นวีซ่าซ้ำ ภายในวันที่ถูกกำหนดให้ทัน ส่วนใหญ่หากวีซ่าไม่ผ่านแล้วนั้น การยื่นซ้ำด้วยตัวเองอีกรอบมีความเป็นไปได้ยากมากที่จะได้รับการอนุมัติ เพราะการพิจารณาจะเข้มงวดมาก หากแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ยื่นซ้ำไปก็ไม่ผ่านอีก และการยื่นซ้ำก็จะยากขึ้นไปเรื่อยๆ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่า
กรณีวีซ่าคู่สมรสถูกปฏิเสธ
หลังจากแต่งงานกับคนญี่ปุ่นแล้วนั้น ต้องทำการยื่นขอวีซ่าคู่สมรสเพื่อที่จะได้มาอาศัยอยู่ญี่ปุ่นกับคู่สมรสในระยะยาวได้ หลายคนนิ่งนอนใจว่าตัวเองนั้นแต่งงานจริงๆ ดังนั้นเมื่อแต่งงานแล้วก็ต้องได้รับวีซ่าแน่ๆ แต่หลายกรณีก็ถูกปฏิเสธเช่นกัน ส่วนใหญ่เหตุผลหลักๆ ที่วีซ่าแต่งงานถูกปฎิเสธ มีดังนี้
แต่งงานกันเร็วทั้งๆ ที่เพิ่งคบหาดูใจกันไม่นาน
ก่อนแต่งงานไม่ค่อยได้เจอกันหรือมีเวลาอยู่ด้วยกันไม่มาก
คู่แต่งงานที่มีปัญหาด้านการสื่อสาร
มีช่องว่างระหว่างวัยค่อนข้างมาก
คบซ้อน
เปลี่ยนแปลงสถานะต่างๆแต่ไม่แจ้งนิวกังภายใน 14 วัน
เจอกันผ่านเอเจนซี่หรือเว็บหาคู่
มีรูปคู่ระหว่างคบหาดูใจกันน้อย
เคยมีประวัติการแต่งงานและหย่าร้างหลายครั้ง
สามีชาวญี่ปุ่นมีรายได้น้อยหรือว่างงาน
ไม่จ่ายหรือจ่ายภาษี ประกัน บำนาญ ล่าช้า
ผู้ที่มาโดยวีซ่านักเรียนแต่ออกกลางคัน
ทำงานเกิน 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
มีประวัติการก่ออาชกรรมทั้งที่ประเทศไทยและญี่ปุ่น
คู่สมรสฝั่งไทยเคยทำผิดกฎหมายจราจรในประเทศญี่ปุ่น
เคยอยู่เกินกำหนดในประเทศญี่ปุ่น
หากใครถูกปฏิเสธวีซ่า อย่ามัวแต่กังวลใจ หาทางออกไม่ได้อยู่คนเดียวเลยครับ ลองมาปรึกษาดูก่อนนะครับ ทางสำนักงานเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ดังนั้นเมื่อตรวจสอบเอกสารและได้รับฟังเรื่องราวจะสามารถคาดการณ์ได้ว่าทำไมวีซ่าจึงถูกปฏิเสธ จากนั้นจึงทำเอกสารใหม่เพื่อยื่นวีซ่าซ้ำ ซึ่งแน่นอนว่าโอกาสที่วีซ่าจะผ่านมีมากกว่าการยื่นเองแน่นอน อย่ามัวรอช้านะครับ
รายละเอียดวีซ่าชนิดต่างๆ คลิกด้านล่าง
ลักษณะเฉพาะของวีซ่าแต่งงาน(วีซ่าคู่สมรส)ประเภทต่างๆ