การจดทะเบียนสมรสระหว่างคู่สมรสชาวไทย – ญี่ปุ่น
สามารถทำได้ 2 แบบ คือ
จดทะเบียนสมรสที่ญี่ปุ่นก่อน แล้วจึงรายงานไปยังทางการประเทศไทย
จดทะเบียนสมรสที่ไทยก่อน แล้วจึงรายงานไปยังทางการประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกของคู่สมรส ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าอยากจดที่ไหนก่อนและไม่มีผลอะไรกับการยื่นวีซ่า
จดทะเบียนสมรสที่ญี่ปุ่นก่อนแล้วแจ้งต่อทางการไทยภายหลัง มี 2 กรณีคือ
คู่สมรสอยู่ไทย
ในกรณีนี้คู่สมรสชาวไทยไม่จำเป็นต้องเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นก็ได้ คู่สมรสชาวญี่ปุ่นสามารถดำเนินการยื่นเรื่องจดทะเบียนสมรสคนเดียวได้เลย ซึ่งเอกสารที่ต้องเตรียม มีดังนี้
เอกสารของคู่สมรสชาวไทย
🔹 独身証明書 ใบรับรองสถานภาพโสด
🔹 住居登録証 ทะเบียนบ้าน
🔹 出生証明書 สูติบัตร
🔹 申述書 หนังสือปฏิญานตน
🔹 เอกสารเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น สำเนาหนังสือเดินทาง ใบเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล หากเคยแต่งงานมาก่อนก็ให้นำใบสำคัญการหย่ามาด้วย ทั้งนี้ควรตรวจสอบกับอำเภอที่จะยื่นเรื่องแต่งงานให้ดี เนื่องจากแต่ละอำเภอก็มีรายละเอียดปลีกย่อยแต่กต่างกันไป
🔹 เอกสารภาษาไทยต้องนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษและประทับตรารับรองโดยกระทรวงต่างประเทศไทย จากนั้นนำมาแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นก่อนยื่นจดทะเบียนสมรสที่อำเภอญี่ปุ่น
เอกสารของคู่สมรสชาวญี่ปุ่น
🔹 戸籍謄本 โคเซกิโทฮง อายุไม่เกิน 3 เดือน
🔹 婚姻届 แบบฟอร์มการสมรส ซึ่งลงลายมือชื่อคู่สมรสชาวไทยเป็นที่เรียบร้อย
🔹 บัตรแสดงตัวตน เช่น ใบขับขี่ มายนัมเบอร์
คู่สมรสอยู่ญี่ปุ่น
เอกสารของคู่สมรสชาวไทย
🔸 หนังสือรับรองสถานภาพการสมรส (ใบโสด)
🔸 หนังสือเดินทางฉบับจริง
🔸 บัตรประจำตัวประชาชน
🔸 สำเนาทะเบียนบ้าน
🔸 สูติบัตร
🔸 หากเคยเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล กรุณาเตรียมใบเปลี่ยนชื่อ หรือใบเปลี่ยนนามสกุลมาด้วย
🔸 หากเคยจดทะเบียนหย่า ต้องเตรียมทะเบียนหย่า หรือทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวหย่ามาด้วย
🔸 หญิงไทยต้องจดทะเบียนหย่าแล้วไม่น้อยกว่า 100 วัน และหากหย่าไม่ถึง 310 วัน ต้องเตรียมใบรับรองแพทย์ระบุว่าไม่ได้ตั้งครรภ์มาแสดงด้วย ซึ่งต้องตรวจก่อนวันยื่นเรื่องไม่เกิน 1 วัน
🔸 เอกสารภาษาไทยต้องนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษและประทับตรารับรองโดยกระทรวงต่างประเทศไทย จากนั้นนำมาแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นก่อนยื่นจดทะเบียนสมรสที่อำเภอญี่ปุ่น
เอกสารของคู่สมรสชาวญี่ปุ่น
🔹 戸籍謄本 โคเซกิโทฮง อายุไม่เกิน 3 เดือน
🔹 婚姻届 แบบฟอร์มการสมรส
🔹 บัตรแสดงตัวตน เช่น ใบขับขี่ มายนัมเบอร์
🌀 เตรียมเอกสารที่จำเป็นที่จะต้องใช้ในการจดทะเบียนสมรสไปยื่นที่อำเภอ ทั้งนี้แต่ละอำเภอก็มีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงควรตรวจสอบไปยังอำเภอที่ต้องการยื่นเรื่องจดทะเบียนสมรสเพื่อความถูกต้อง
🌀 จากนั้นรอประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ก็จะได้โคเซกิโทฮงฉบับใหม่ ที่สามารถนำไปใช้ในการแจ้งต่อทางการไทย
💞 ขั้นตอนการแจ้งสมรสที่ประเทศไทย 💞
นำโคเซกิโทฮงพร้อมคำแปลภาษาไทย ที่ผ่านขั้นตอนประทับตราแล้วไปแจ้งบันทึกทะเบียนฐานะแห่งครอบครัว-สมรส (คร.22) ที่อำเภอไทยที่ตนเองมีชื่ออยู่ในสำเนาทะเบียนบ้านไทย
ที่ว่าการอำเภอไทยออกทะเบียนฐานะแห่งครอบครัว-สมรสไทย และแก้ไขคำนำหน้าชื่อ เปลี่ยนนามสกุลตามสามีหรือภรรยาภายหลังการสมรสในสำเนาทะเบียนบ้านไทย
ขอทำบัตรประจำตัวประชาชนไทยใหม่ที่อำเภอไทย และขอทำหนังสือเดินทางใหม่ที่กระทรวงการต่างประเทศไทย(กรณีที่ไม่ได้เดินทางกลับประเทศไทย สามารถยื่นคำร้องขอทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ และหนังสือเดินทางใหม่ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้)
หากทำการจดทะเบียนสมรสที่ญี่ปุ่นและแจ้งต่อทางการไทยเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถยื่นขอวีซ่าคู่สมรสได้ทันที ‼
หากอยู่เกินกำหนดวันที่วีซ่าระบุหรือโอเวอร์สเตย์ จะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันไป ‼
กรุณาปรึกษาทางสำนักงานโดยตรงนะครับ ‼
จดทะเบียนสมรสที่ไทยก่อนแล้วแจ้งต่อทางการญี่ปุ่นภายหลัง
กรณีนี้คู่สมรสทั้งคู่ต้องอยู่ไทย แล้วไปดำเนินการยื่นเรื่องจดทะเบียนสมรสที่อำเภอทั้งคู่ โดยคู่สมรสชาวญี่ปุ่นต้องนำเอกสารด้านล่างนี้ไปยื่นขอหนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส และหนังสือรับรองความเป็นโสด จากสถานฑูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
เอกสารของคู่สมรสชาวญี่ปุ่น
ทะเบียนครอบครัวญี่ปุ่น (โคเซกิโทฮง) 1 ฉบับ โดยมีเงื่อนไขดังนี้
ทะเบียนครอบครัวต้องออกภายใน 3 เดือนนับถึงวันที่มายื่น
ผู้ที่เคยสมรสมาก่อนต้องนำทะเบียนครอบครัวที่ระบุเรื่องการหย่าหรือการเสียชีวิตของคู่สมรสเดิมมาด้วย
หนังสือรับรองความเป็นโสดนั้นออกจากทะเบียนครอบครัวญี่ปุ่น ดังนั้น กรุณาเขียนคำอ่าน (ฟุริกานา) กำกับชื่อสกุล, ชื่อบิดามารดา, ภูมิลำเนาและสถานที่เกิดด้วย
ทะเบียนบ้านญี่ปุ่น 1 ฉบับ ซึ่งออกภายใน 3 เดือนนับถึงวันที่มายื่น
หนังสือรับรองการทำงาน 1 ฉบับ ซึ่งออกภายใน 3 เดือนนับถึงวันที่มายื่น
หนังสือรับรองรายได้ 1 ฉบับ ซึ่งออกภายใน 3 เดือนนับถึงวันที่มายื่น
หนังสือเดินทาง (ตัวจริงและสำเนาหน้ารายละเอียด 1 ชุด)
ใบคำร้องในการขอหนังสือรับรอง1 ฉบับ กรอกด้วยภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอังกฤษ
แบบสอบถามเพื่อพิมพ์หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส
หนังสือมอบอำนาจ1 ใบ (ในกรณีให้ผู้อื่นมายื่นแทน)
เอกสารของคู่สมรสชาวไทย
🌸 บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริงและสำเนา 1 ฉบับ)
🌸 ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงและสำเนา 1 ฉบับ)
🌸 หนังสือเดินทาง (ตัวจริงและสำเนา 1 ชุด) ถ้าไม่มีก็ไม่จำเป็นต้องนำมา
🌸 กรณีเคยสมรสมาก่อน……… ใบสำคัญการหย่า ( ตัวจริงและสำเนา 1 ฉบับ)
🌸 กรณีเคยเปลี่ยนชื่อสกุล……… ใบเปลี่ยนชื่อสกุล ( ตัวจริงและสำเนา 1 ฉบับ)
🌸 กรณีมีบุตรโดยไม่ได้สมรส……… ใบสูติบัตรของเด็ก ( ตัวจริงและสำเนา 1 ฉบับ)
🌳 หลังจากเตรียมเอกสารที่กล่าวมาข้างต้นครบถ้วนแล้ว นำมายื่นที่เคาน์เตอร์แผนกหนังสือรับรองหนังสือเดินทาง ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย สถานเอกอัครฯ จะออกหนังสือรับรองความเป็นโสด และ หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติฯ ฉบับภาษาอังกฤษให้คู่สมรส
🌳 แปลหนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส และหนังสือรับรองความเป็นโสด ที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยออกให้นั้นเป็นภาษาไทยและนำไปรับการประทับตรารับรองจากกองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศไทย
🌳 หลังจากได้รับหนังสือรับรองฯ ที่กระทรวงการต่างประเทศไทยประทับตรารับรองแล้ว ให้คู่สมรสทั้งสองฝ่ายนำหนังสือรับรองฯ ดังกล่าวไปยื่น ณ ที่ว่าการเขต/อำเภอของประเทศไทยเพื่อทำการจดทะเบียนสมรสต่อไป อนึ่ง เกี่ยวกับเอกสารจำเป็นอื่นๆ ที่จะต้องนำไปยื่น ณ ที่ว่าการเขต/อำเภอของประเทศไทยเวลายื่นจดทะเบียนสมรสนั้น กรุณาสอบถามจากที่ว่าเขต/อำเภอของประเทศไทยโดยตรง
🌳 หลังจากที่ว่าการเขต/อำเภอของประเทศไทยรับเรื่องการจดทะเบียนสมรสแล้วจะออก “ใบสำคัญการสมรส” ให้คู่สมรสทั้งสอง เป็นการเสร็จสมบูรณ์ของระเบียบการจดทะเบียนในประเทศไทย
🌳 คู่สมรสทั้งสองฝ่ายจะยื่นจดทะเบียนสมรส ณ ที่ว่าการเขต/อำเภอใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสมรส ณ ที่ว่าการเขต/อำเภอที่คู่สมรสฝ่ายไทยมีทะเบียนบ้านอยู่
🌳 หลังจากจดทะเบียนสมรสที่ประเทศไทยแล้ว กรุณาแจ้งการจดทะเบียนสมรสดังกล่าว ณ สำนักทะเบียนเขต/อำเภอของประเทศญี่ปุ่นด้วย โดยต้องแจ้งการจดทะเบียนสมรสภายในสามเดือน‼
💮 ข้อมูลบางส่วนจากสถานฑูตญี่ปุ่นในไทย กันยายน 2019
หากทำการจดทะเบียนสมรสที่ไทยและแจ้งต่อทางการญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถยื่นขอวีซ่าคู่สมรสได้ทันที ‼
หากคิดว่าการจดทะเบียนสมรสนั้นมีขั้นตอนยุ่งยากแล้ว การยื่นวีซ่าคู่สมรสนั้นมีหลายขั้นตอนและไม่ใช่ว่าทุกคนที่ยื่นจะได้วีซ่านะครับ เพื่อลดความยุ่งยากและกังวลต่อการถูกปฏิเสธวีซ่า ให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดำเนินการให้จะดีกว่านะครับ 😃