วีซ่าติดตามครอบครัว

วีซ่าติดตามครอบครัว家族滞在

หลายคนที่มาทำงานหรือมาเรียนที่ญี่ปุ่น  อยากจะพาครอบครัวมาอยู่ด้วยกัน  สามารถทำได้โดยการยื่นขอวีซ่าติดตามครอบครัว

วีซ่าติดตามครอบครัวนั้นสามารถพาครอบครัว  เช่น  สามี  ภรรยา  ลูก  รวมไปถึงลูกบุญธรรม  มาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยได้

วีซ่าติดตามครอบครัวไม่สามารถพาพ่อแม่  หรือสามี  ภรรยา  ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสมาอยู่ด้วยได้

 โดยเมื่อพาครอบครัวมาอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยแล้วนั้น  ต้องพักอาศัยอยู่ด้วยกันจริงๆ หากเป็นสามี  ภรรยา  ก็ต้องอยู่ร่วมกันใช้ชีวิตสามี-ภรรยา  ตามปกติ  ไม่สามารถแยกกันอยู่ได้

หากพาลูกมาอยู่ด้วย  ก็ต้องให้การศึกษาตามที่กฎหมายญี่ปุ่นกำหนด

ถ้าลูกอายุเกิน 18 ปีแล้ว  การยื่นขอวีซ่าค่อนข้างยาก  เนื่องจากตามกฎหมายญี่ปุ่นถือว่าบรรลุนิติภาวะแล้ว

 

ผู้ที่มีสิทธิยื่นขอวีซ่าชนิดนี้ 

ผู้ที่ถือวีซ่าทำงานประเภทต่างๆ เช่น  กุ๊ก  พนักงานบริษัท

ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียน  ซึ่งต้องเป็นนักเรียนเซนมงหรือนักศึกษามหาวิทยาลัยเท่านั้น  สำหรับนักเรียนที่มาเรียนโรงเรียนภาษาญี่ปุ่น  ไม่สามารถทำเรื่องยื่นขอวีซ่าติดตามให้ครอบครัวมาอยู่ด้วยได้

 

🌻  วีซ่าติดตามครอบครัวกับการทำงาน  🌻

🌰 โดยปกติแล้วผู้ถือวีซ่าติดตามครอบครัว  รวมไปถึงผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนนั้น  ไม่สามารถทำงานได้หากนิวกังไม่อนุมัติ  ดังนั้นการยื่นขออนุญาตจึงจำเป็นอย่างยิ่ง  เมื่อขออนุญาตแล้วจึงสามารถทำงานได้ไม่เกิน 28 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์  และไม่ว่าจะทำงานกี่แห่ง 2 หรือ 3 แห่ง  ก็ต้องนับรวมกันให้ไม่เกิน 28 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ โดยนักเรียนประถม  มัธยมต้น  ไม่สามารถทำงานได้

🌰 ผู้ที่ถือวีซ่าติดตามครอบครัวนั้น  ต้องมีรายได้น้อยกว่าผู้ที่ถือวีซ่าหลัก  บางกรณีผู้ถือวีซ่าติดตามครอบครัว  ทำงานไม่เกิน 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ก็จริง  แต่เป็นงานที่มีรายได้ต่อชั่วโมงสูง  ในทางตรงกันข้ามผู้ที่ถือวีซ่าหลักเงินเดือนน้อย  ทำให้ผู้ถือวีซ่าติดตามมีรายได้มากกว่าผู้ที่ถือวีซ่าหลัก  ข้อนี้จะทำให้วีซ่ามีปัญหาได้ทั้งคู่

🌰 ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนนั้น  สามารถทำงานได้ถึงวันละ 8 ชั่วโมง  และไม่เกิน 40 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ ในช่วงปิดเทอม

 

รายได้ของผู้ที่ถือวีซ่าติดตามครอบครัวนั้น  จะมีผลเกี่ยวเนื่องกับภาษี  และประกันต่างๆ ที่ต้องจ่าย

💰 ผู้ที่มีรายได้เกิน 1,000,000  เยน ต่อปี  จะต้องเสียภาษีท้องถิ่น  (住民税 Juminzei)

💰 ผู้ที่มีรายได้เกิน 1,030,000  เยน  ต่อปี จะต้องเสียภาษีเงินได้ (所得税 Shotoku zei)

💰 ผู้ที่มีรายได้เกิน 1,300,000 เยน ต่อปี  ประกันสุขภาพ (健康保険 Kenkohoken) ของผู้ที่ถือวีซ่าหลักจะไม่ครอบคลุมผู้ถือวีซ่าติดตามครอบครัว  จึงจำเป็นจะต้องจ่ายในส่วนนี้เพิ่ม

🌳  ปัจจุบันนี้ค่าแรงในการทำงานต่อชั่วโมงเพิ่มสูงขึ้น  ดังนั้นถึงแม้ผู้ที่ถือวีซ่าติดตามครอบครัวจะทำงานไม่เกิน 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์  แต่รายได้รวมต่อปีก็อาจมากจนต้องจ่ายส่วนต่างๆ เหล่านี้เพิ่มขึ้นก็เป็นได้  แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาในการต่อวีซ่าแต่อย่างใด  เพียงแต่ต้องระวังไม่ให้รายได้มากกว่าผู้ที่ถือวีซ่าหลัก

 

  หากผู้ถือวีซ่าติดตามครอบครัวจบการศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือมีประสบการณ์ตามที่นิวกังเห็นสมควร  ต้องการเปลี่ยนมาเป็นพนักงานประจำ  (正社員Seishain) หรือ  พนักงานสัญญาจ้าง (契約社員Keiyaku shain) ก็สามารถทำได้โดยที่ยื่นเรื่องขอเปลี่ยนชนิดวีซ่า

 ผู้ที่จบเซนมง (専門学校) หรือจบมหาวิทยาลัย (大学) แล้วยังไม่สามารถหางานทำได้ สามารถยื่นเปลี่ยนเป็นวีซ่าหางานได้ ( 特定活動) โดยต่อได้ 2 ครั้ง  ครั้งละ 6 เดือน  แต่ก็ไม่สามารถทำงานได้เกิน 28 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์อยู่ดี

 

‼ ‼ ข้อควรระวัง ‼  ‼

🚫 งานที่ผู้ที่ถือวีซ่าติดตามครอบครัว  และวีซ่านักเรียนไม่สามารถทำได้  มีหลายประเภท เช่น ร้านสแน็ค Snack Bar (スナック) ปาจิงโกะ  บาร์โฮสต์  ร้านเกม❗

🚫 ผู้ถือวีซ่าติดตามครอบครัวและวีซ่านักเรียนที่ทำงานเหล่านี้  หากถูกจับแล้วต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี  หรือปรับไม่เกิน 2,000,000 เยน  เมื่อพ้นโทษแล้ว  จะถูกส่งกลับประเทศไทยในทันที  และไม่สามารถเข้าประเทศญี่ปุ่นได้เป็นเวลา 5 ปี

⛔ หากทำงานเกินเวลาที่นิวกังกำหนด   ไม่เพียงแต่ตนเองจะมีปัญหาเวลาต่อวีซ่าเท่านั้น  ผู้ที่ถือวีซ่าหลักก็จะพลอยมีปัญหาไปด้วย  โดยบางกรณีถึงกับไม่สามารถต่อวีซ่าได้  ต้องกลับไทยทั้งครอบครัวเลยก็มี

👩‍👩‍👦‍👦 วีซ่าติดตามครอบครัวนั้น  มีไว้สำหรับผู้ที่ถือวีซ่าทำงานหรือวีซ่านักเรียนที่ต้องการพาครอบครัวมาอยู่ญี่ปุ่นด้วย  ส่วนผู้ที่ถือวีซ่าคู่สมรสของคนญี่ปุ่นหรือผู้ที่ถือวีซ่าถาวรนั้น  หากต้องการพาลูกมาอยู่ด้วย  ให้ทำเรื่องขอวีซ่าเทจู (定住者) หลายคนสับสนระหว่างวีซ่า 2 ชนิดนี้

 

🌴   เอกสารที่ใช้ในการยื่นวีซ่าติดตามครอบครัว   🌴

⇑⇑⇑

⇑⇑⇑

🔅 🔅  คลิก  🔅 🔅