ทะเบียนฐานะแห่งครอบครัว (คร.22)

🎀  🎀  การที่คนไทยจะยื่นขอวีซ่าแต่งงาน  หรือวีซ่าคู่สมรสได้นั้นก็ต่อเมื่อได้จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

กับชาวญี่ปุ่นแล้ว  ซึ่งการจดทะเบียนสมรสนั้นจะมีผลทางกฎหมายสมบูรณ์  ทั้งไทยและญี่ปุ่นก็ต่อเมื่อคู่สมรสได้ทำตามขั้นตอน

ที่กฎหมายระบุไว้ทั้ง 2 ประเทศ  อย่างถูกต้องแล้วเท่านั้น  🎀 🎀

 

🌴 🔅  การที่จะทำให้การจดทะเบียนสมรสเป็นไปอย่างสมบูรณ์ทั้งไทยและญี่ปุ่นนั้น  มีอยู่ 2 วิธีคือ  🔅 🌴

   จดทะเบียนสมรสที่ไทยก่อนจากนั้นจึงส่งเรื่องมายังประเทศญี่ปุ่น

   จดทะเบียนสมรสที่ญี่ปุ่นก่อนจากนั้นจึงส่งเรื่องไปยังประเทศไทย

 

✨  ซึ่งทั้ง 2 แบบนั้น  มีรายละเอียดแตกต่างกันไป  แต่ในที่นี้จะขอพูดถึงวิธีที่ 2  นั่นก็คือการจดทะเบียนสมรสที่ญี่ปุ่นก่อน

แล้วจึงส่งเรื่องไปยังประเทศไทย

 

✨  เมื่อส่งเรื่องไปยังประเทศไทยแล้วนั้น  จะได้เอกสารสำคัญที่จะใช้ในการยื่นขอวีซ่าแต่งงาน  หรือวีซ่าคู่สมรส

เอกสารนั้นก็คือ  ใบทะเบียนฐานะแห่งครอบครัว  หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า คร.22

 

🍭 🍀  โดยขั้นตอนที่จะให้ได้มาซึ่ง  ใบทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวนั้น  สามารถดำเนินการได้ 2 แบบ  ดังนี้  🍀 🍭

❄  แบบที่ 1  ❄ ซึ่งส่วนใหญ่คนจะนิยมทำแบบนี้มากกว่า

🌷 ขอโคเซกิโทฮงที่ระบุว่าได้จดทะเบียนสมรสแล้วจากอำเภอญี่ปุ่น

🌾  แปลโคเซกิโทฮงเป็นภาษาอังกฤษ

🌷 นำไปประทับตรารับรองลายมือชื่อผู้แปลที่โนตารีพับลิค

🌾  นำไปประทับตรารับรองที่สำนักกฎหมายที่โนตารีพับลิคนั้นๆ สังกัดอยู่

🌷  นำไปประทับตรารับรองจากกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น

🌾 แปลโคเซกิโทฮงและเอกสารแนบทุกหน้าที่ผ่านการประทับตรารับรองแล้วเป็นภาษาไทย

🌷 นำโคเซกิโทฮงและเอกสารแนบทุกหน้าที่ผ่านการประทับตรารับรองพร้อมคำแปลภาษาไทย มาขอประทับตรารับรองที่สถานเอกอัครราชทูตฯ                   

🌾  ส่งโคเซกิโทฮงที่ได้รับการประทับตรารับรองจากสถานฑูตไทยไปยังคู่สมรสที่ประเทศไทย

🌷  คู่สมรสนำโคเซกิโทฮงไปขอประทับตรารับรองจากกระทรวงต่างประเทศไทย

🌾  นำโคเซกิโทฮงที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงต่างประเทศไทย  ไปขอใบทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวที่อำเภอ  ประเทศไทย

🌷  เมื่อได้รับทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวแล้ว  จึงเริ่มดำเนินการยื่นขอวีซ่าได้

 

❄   แบบที่ 2  ❄

🌾  ขอโคเซกิโทฮง 戸籍謄本  จากอำเภอ

🌷  ส่งโคเซกิโทฮงที่ได้รับ  ให้กับคู่สมรสที่ประเทศไทย

🌾  คู่สมรสนำโคเซกิโทฮงไปยังสถานฑูตญี่ปุ่น  ประจำประเทศไทย

🌷  เจ้าหน้าที่สถานฑูตญี่ปุ่น  ประจำประเทศไทย  ทำการแปลโคเซกิโทฮงเป็นภาษาอังกฤษ  โดยมีค่าใช้จ่าย

🌾  นำโคเซกิโทฮงฉบับภาษาอังกฤษที่แปลโดยสถานฑูตญี่ปุ่น  ประจำประเทศไทย  ไปแปลเป็นภาษาไทย

🌷  นำโคเซกิโทฮงฉบับภาษาอังกฤษและภาษาไทย  ไปขอประทับตรารับรองจากกระทรวงต่างประเทศไทย

🌾  นำโคเซกิโทฮงที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงต่างประเทศไทย  ไปขอใบทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวที่อำเภอ  ประเทศไทย

🌷  เมื่อได้รับทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวแล้ว  จึงเริ่มดำเนินการยื่นขอวีซ่าได้

 

😃  จะเห็นได้ว่ากว่าจะได้มาซึ่งทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวนั้น  มีขั้นตอนยุ่งยาก  และต้องไปติดต่อหลายแห่ง 

ดังนั้นหากใครต้องการความสะดวกสบาย  สามารถให้ทางสำนักงานดำเนินการในส่วนของทางญี่ปุ่นได้นะครับ ‼