โดยปกติแล้วผู้ที่อยู่เกินกำหนดวีซ่าถือเป็นผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย มีโทษดังนี้
เมื่อถูกจับกุมแล้วจะถูกสั่งห้ามเข้าประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 5 ปี
อยู่เกินกำหนด 2 ครั้งขึ้นไป ถูกจับกุมแล้วจะถูกสั่งห้ามเข้าประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 10 ปี
อยู่เกินกำหนดแล้วเข้ามอบตัว จะถูกสั่งห้ามเข้าประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 ปี
ทั้งหมดเป็นเพียงข้อกฎหมายที่ระบุโทษไว้ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น เมื่อครบกำหนดถูกสั่งห้ามเข้าประเทศญี่ปุ่น หลายคนบินมาแต่ติดอยู่ที่สนามบิน ไม่สามารถเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะพิจารณาอย่างเข้มงวดเพราะเคยมีประวัติการอยู่เกินกำหนด
รวมไปถึงกรณีที่อยู่เกินกำหนดแล้วเข้ามอบตัวเพื่อกลับไปทำเรื่องแต่งงานรอวีซ่าที่เมืองไทย ก็เป็นไปได้ยาก หลายคนยื่นซ้ำหลายรอบแต่วีซ่าก็ไม่ผ่าน ดังนั้นในกรณีที่ต้องการจดทะเบียนสมรสกับคนญี่ปุ่น ควรจะทำเรื่องจดทะเบียนสมรสให้เรียบร้อย จากนั้นทำเอกสารเพื่อเข้ามอบตัว แล้วรอผลการพิจารณาอยู่ที่ญี่ปุ่นจะดีกว่า
ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสและขอวีซ่า
สอบถามไปยังอำเภอที่คู่สมรสมีทะเบียนบ้านอยู่ว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการจดทะเบียนสมรส ถึงแม้ว่าเอกสารพื้นฐานส่วนใหญ่จะใช้เหมือนกัน แต่บางอำเภอมีรายละเอียดแตกต่างกันไปเล็กน้อย
ทำหนังสือมอบอำนาจที่สถานฑูตให้ตัวแทนขอเอกสารที่จะใช้ในการจดทะเบียนสมรสจากไทย
นำเอกสารที่ได้แปลเป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นนำไปประทับตรากงสุล กระทรวงต่างประเทศไทย
นำเอกสารแปลที่ประทับตราเรียบร้อยแล้วมาแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น
จดทะเบียนสมรสที่อำเภอญี่ปุ่น
รอประมาณ 1 -2 สัปดาห์จะได้รับโคเซกิโทฮง (ทะเบียนครอบครัวญี่ปุ่น) จากอำเภอ
แปลโคเซกิโทฮงที่ได้รับจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษ
นำโคเซกิโทฮงที่แปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วไปประทับตรารับรองลายมือชื่อผู้แปลที่โคโชนินยาคุบะ
นำโคเซกิโทฮงที่แปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วไปประทับตรารับรอง ที่โฮมุเคียคุ
นำโคเซกิโทฮงที่แปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วไปประทับตรารับรองจากไกมุโช
นำเอกสารทั้งหมดที่แปลเป็นภาษาอังกฤษและประทับตราทุกที่เรียบร้อยแล้วแปลเป็นภาษาไทยทั้งหมด
นำโคเซกิโทฮงที่แปลและประทับตราเรียบร้อยแล้ว ไปขอรับรองที่สถานทูตไทย
ขอทำหนังสือมอบอำนาจที่สถานทูตไทยเพื่อขอบันทึกเรื่องการสมรสที่อำเภอไทย
ส่งเอกสารทั้งหมดพร้อมใบมอบอำนาจให้ตัวแทนไปประทับตรากงสุล กระทรวงต่างประเทศไทย
ให้ตัวแทนยื่นขอใบฐานะแห่งครอบครัว (คร.22) ที่อำเภอไทย
เมื่อขึ้นทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวแล้ว ก็ถือว่าการสมรสสมบูรณ์แล้ว
แปลคร.22 เป็นภาษาญี่ปุ่นเพื่อใช้เป็นเอกสารส่วนหนึ่งในการดำเนินการยื่นขอวีซ่า
ทำเอกสารเพื่อเข้ามอบตัว
เข้ามอบตัว
จะเห็นได้ว่าการจดทะเบียนสมรสนั้นค่อนข้างยุ่งยาก แต่ที่เห็นว่ายุ่งยากนั้นเทียบไม่ได้เลยกับการทำเอกสารขอวีซ่า โดยปกติของคู่แต่งงานที่ยื่นขอวีซ่าโดยที่ไม่ได้อยู่เกินกำหนดก็ไม่ได้ง่ายอยู่แล้ว ยิ่งสำหรับคนที่อยู่เกินกำหนดนั้น จำเป็นต้องใช้เอกสารมากและทำเอกสารอย่างรัดกุม เนื่องจากนิวกังจะพิจารณาอย่างเข้มงวด สำหรับผู้ที่อยู่เกินกำหนดแล้วยื่นขอวีซ่านั้นหากวีซ่าไม่ผ่านก็ไม่สามารถยื่นซ้ำได้ ดังนั้นการยื่นวีซ่าจึงต้องทำให้รอบคอบเพื่อที่จะให้ได้วีซ่าโดยที่ไม่ต้องกลับไทย